โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
โครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่สภากาชาดไทย ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มุ่งเน้นการให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและด้อยโอกาส โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสายตาและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่มีฐานะยากจน โครงการนี้ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 ปี มีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการรักษาทางด้านจักษุวิทยาอย่างเท่าเทียมกัน โดยเริ่มปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุครบ 40 พรรษา
ปัจจุบันปฏิบัติงานทุกสัปดาห์ที่ 3 ของเดือน เป็นประจำที่สถานีกาชาดที่ 6 อรัญประเทศเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดสระแก้ว โครงการนี้ได้รับการปรับปรุงและพัฒนางานมาเป็นลำดับ โดยปฏิบัติงานเชิงรุกด้วยการออกให้บริการสัญจร โดยออกปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลอำเภอในพื้นที่ห่างไกล และไม่มีจักษุแพทย์ เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบัน และต่อมาในปี 2551 ได้เริ่มโครงการรถคลินิกจักษุศัลยกรรมเคลื่อนที่ฯ ปฏิบัติงานในรูปแบบการนำรถผ่าตัดเคลื่อนที่ ลงไปปฏิบัติงานเชิงลึกระดับตำบล ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ปีละ 6 ครั้ง และอีกทั้ง เมื่อปี 2554 ยังได้จัดทำโครงการที่ตรวจรักษาและผ่าตัดตา ให้แก่พระภิกษุ แม่ชี และนักบวชทุกศาสนาอีกด้วย ตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา
ในการดำเนินการแต่ละครั้ง สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ส่วนราชการทุกภาคส่วน ตลอดจนภาคเอกชน ได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยมีเป้าหมายในการดำเนินงานให้บริการตรวจรักษาโรคตา ผ่าตัดโรคต้อกระจก และทำผ่าตัดโรคตาอื่นๆ เช่น ต้อเนื้อ ต้อหิน โรคของเปลือกตาในผู้ป่วยทุกรายที่จำเป็นต้องรักษา เพื่อให้ผู้ป่วยโรคตาในท้องถิ่นทุรกันดารและมีฐานะยากจน ได้รับบริการที่ดีเท่าเทียมกับผู้ป่วยในเมืองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และไม่เสียเวลาในการเดินทางมารับการรักษาในเมือง และผู้สูงอายุที่ยากไร้ในชนบทได้รับการตรวจรักษาอย่างถูกต้อง สามารถมองเห็นและช่วยเหลือตัวเองได้ ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมอย่างมาก แม้ว่าโครงการฯ จะประสบความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมาก แต่ก็ยังคงมีความท้าทายอยู่บ้าง การสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนโครงการฯ ให้บรรลุเป้าหมาย